‘ไบรท์’ ไม่เคยหลอก ‘โค้ชคลั่งรัก’ ยันเคยท้องแต่แท้งไปแล้ว รับคบเด็ก 17 จริง

‘ไบรท์’ ไม่เคยหลอก ‘โค้ชคลั่งรัก’ ยันเคยท้องแต่แท้งไปแล้ว รับคบเด็ก 17 จริง

ไบร์ท ออก โหนกระแส เล่าด้านของตนเอง ยืนยันไม่เคยหลอก มาร์ช โค้ชคลั่งรัก เทรนเนอร์ฟิตเนสคนดัง เคยท้องแต่แท้งไปแล้ว รับคบกับเด็ก 17 จริง ไบรท์ คู่กรณี มาร์ช โค้ชคลั่งรัก เทรนเนอร์ฟิตเนสหนุ่มคนดัง ได้ไปออกรายการโหนกระแส เพื่อเล่าเรื่องของฝั่งตน หลังมาร์ชออกมาแฉพฤติกรรมของไบรท์ หญิงสาว ที่มาหลอกแต่งงาน จดทะเบียนสมรส ก่อนฉ้อโกงเงิน เอาบัตรเครดิตไปผลาญเป็นล้าน ก่อนตีตัวออกห่าง

ไบรท์ ยืนยันว่าตนตั้งท้องจริงๆ แต่ที่เอาอัลตราซาวด์ปลอมให้ดู 

เพราะ ตัดรำคาญที่เขาบอกให้ไปตรวจ แต่ไม่ออกค่าใช้จ่ายเลย ที่ผ่านมาไปไหน กินอะไร แม้แต่ค่าถ่ายพรีเวดดิ้ง ตนก็เป็นคนจ่ายเงินมาตลอด พร้อมบอกว่าด้วยว่า มาร์ชก็เห็นว่ามีน้ำนมไหล แต่สุดท้ายตนแท้ง ซึ่งเรื่องนี้มาร์ชก็รู้

ทางฝั่งสาวเจ้าก็บอกด้วยว่า บัตรเครดิตที่บอกว่ารูดไปเป็นล้าน วงเงินมันไม่ถึงแน่นอน รายได้ต่างๆ ไม่มีทางจะขอเพิ่มวงเงินไปถึงล้านได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องการรูดบัตรเครดิตต่างๆ ก็หยิบมาใช้ด้วยกันอย่างเปิดเผย เขาเองก็ซื้อของเขา เวลาตนจะซื้ออะไรก็ต้องมีแจ้งเตือนไปโผล่ที่โทรศัพท์เขา แล้วจะมาอ้างว่าไม่รู้ได้อย่างไร

ส่วนเรื่องปกปิดเรื่องเคยมีสามีมีลูก ช่วงแรกที่คุยกันตนมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ก็ไม่ได้เล่า แต่พอแต่งงานกันไปแล้ว ก็ยอมรับว่าไม่ยอมบอกความจริง โดยสามีคนแรกเป็นช่างเครื่องมือแพทย์ คบกับ 7 ปี มีลูก 2 คน , สามีคนที่ 2 เป็นทหารบก มีลูกด้วยกัน 1 คน , คนที่ 3 เป็นหมอ มีลูกด้วยกัน 1 คน ยอมรับว่าเคยขโมยนาฬิกาสามีคนที่ 3 ไปขาย

ในส่วนเรื่องที่มีคนออกมาแฉว่าไบรท์คบกับเด็กอายุ 17 อยู่นั้น ไบรท์ยอมรับว่าเป็นความจริง พร้องบอกว่า “ก็เด็กมันน่ารักอ่ะ” อยากคลั่งรักบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องเลิก เนื่องจากไม่อยากให้เดือดร้อน

ขณะที่ทาง มาร์ช เทรนเนอร์หนุ่มก็ได้โฟนอินเข้ามาในรายการโหนกระแส ยอมรับรู้ว่าแท้ง ฝ่ายหญิงส่งรูปมาเร็วจึงแคปไม่ทัน พร้อมย้อนถามฝ่ายหญิง หากมีเอกสารธนาคารยืนยันมีการรูดใช้บัตรเดรคิตเป็นล้าน จะรับผิดชอบยังไง ทำอะไรรู้อยู่แก่ใจ ยอมรับตอนนี้ยังไม่ได้หย่ากัน แต่ยืนยันหย่าแน่นอน

นายชัยณรงค์ เผยว่าในประเด็นนี้ขอให้ทางญาติผู้เสียชีวิตไม่ต้องกังวล เพราะ กยศ.อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลในเรื่องนี้ ซึ่งตามระเบียบ กยศ. หากผู้กู้เสียชีวิต ก็จะถูกยกหนี้ในส่วนนี้ไป ไม่ตกเป็นภาระของญาติแต่อย่างใด

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังอยู่ในขั้นตอนการประสาน งานกับญาติ ครูแบมแบม หรือ หากญาติต้องการพบเจ้าหน้าที่ กยศ. ให้สามารถติดต่อมาได้ที่คอลเซ็นเตอร์ 0 2016 4888 เพื่อความรวดเร็วในการแก้ไขหนี้ที่คงค้างอยู่ของผู้เสียชีวิต

อ้างอิงตามระเบียบของการระงับหนี้ กยศ. นั้น กรณีผู้ก็ยืมถึงแก่ความตาย และผู้กู้ยืมที่ศาลสั่งให้เป็นบุคคลสาปสูญให้หนี้ตามสัญญาเป็นอันระงับไป ให้ญาติแจ้งธนาคารกรุงไทย ธนาคารอิสลาม ทราบ โดยยื่นเอกสารหลักฐานพร้อมเซ็นสำเนาถูกต้องทุบฉบับ ประกอบด้วย สำเนาใบมรณะบัตรของผู้กู้ยืมเงิน สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้ยืม สำเนาบัตรประชาชนของผู้กู้ยืม และสำเนาบัตรประชาชนของผู้มาแจ้ง

อีกแล้ว! พิตบูล 2 ตัวไล่กัดคน พังรั้วบุกเข้ามาบ้าน

พิตบูล 2 ตัวไล่กัดคน หลังพังรั้วเข้ามาในบ้าน หนุ่มสู้สุดชีวิต ตะโกนไม่ให้แม่เข้ามา เผยเคยมีประวัติกัดคนมาแล้ว กลายเป็นประเด็นอีกครั้งกับสุนัขพิตบูล 2 ตัว ที่พังรั้วและหลุดเข้ามาในบ้านภายใน ตำบลท้ายหาด อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม และไล่ไก่ผู้ชายคนหนึ่งภายในร้านอีเล็กซ์ทรอนิคจนเกิดการต่อสู้และทำข้าวของกระจัดกระจายไปทั่วร้าน เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม เวลาเกือบเที่ยง

ทางเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 ผู้โพสต์คลิประบุว่า “บันทึกเตือนภัย !!! เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น !!! ช่วงบ่ายวันนี้ หมาพิตบูล 2 ตัวของชาวบ้านหลุดพังรั้วเข้ามาในบ้าน น้องได้ยินเสียงดังเลยเดินไปดูเจอหมา 2 ตัวพุ่งมากัดน้องได้รับบาดเจ็บ ส่วนเราเพิ่งกลับมาจากข้างนอกเปิดประตูเข้าบ้านไม่รู้ว่ามีหมา ตกใจเพราะหมาปรี่เขามาจะกัดเราอีก หนีแทบไม่ทัน

ได้ยินลูกตะโกนบอก แม่อย่าเข้ามา !! อย่าเข้าบ้าน น้องโดนหมากัดแล้ว บอกว่าโดนหมากัด เราก็นึกว่าหมาอยู่หลังบ้าน เลยจะรีบเปิดประตูเข้าไปช่วย แต่หมาอยู่หน้าบ้านมันเห็นเรามันวิ่งปรี่เข้ามาเลย ดีที่เราเห็นหมาก่อนเลยออกประตูมาได้ทัน หมาแรงเยอะมากดันประตูแทบพัง

อยู่ในบ้านเราแท้ๆ ยังโดนกัด เลี้ยงหมาพิตบูลเพื่ออะไร เรากลัวอยู่แบบหวาดระแวง ถ้าคุณเจอแบบนี้จะทำยังไง หมอฉีดยาเยอะมากลูกเจ็บมากๆเลย แต่แม่เจ็บกว่า”

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายดิเรก มาฆะธรรม กำนัน ต.ท้ายหาด พาไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ทราบว่าพิตบูล 2 ตัวที่ไล่กัดคน แหกกรงขังในบ้าน แล้วมุดรั้วเพื่อนบ้านเข้ามาทางรางระบายน้ำ เข้ามาในห้องกระจกของผู้เสียหาย โดยที่เจ้าของสุนัขไม่ทราบ

เบื้องต้นเจ้าของสุนัขบอกว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดกว่า 40,000 บาท และเมื่อผู้ป่วยหายดีก็จะมาไกล่เกลี่ยในทางคดี ซึ่งเบื้องต้นเจ้าของบ้านผู้เสียหายบอกว่าไม่เอาเรื่อง แต่ขอให้นำสุนัขออกนอกพื้นที่ซึ่งจะพูดคุยกันอีกครั้ง โดยผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังทางครอบครัวของผู้บาดเจ็บไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

นอกจากนี้ นายดิเรกยังได้เปิดเผยอีกด้วยว่า สุนัขของบ้านหลังนี้ก่อเหตุซ้ำซ้อนมาแล้วหลายครั้ง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 ก็มีสุนัขพิตบูลหลายตัวรุมกัดพระสงฆ์ที่เดินบิณฑบาต

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น